1 ในคำถามที่มีลูกค้าถามเข้ามาค่อนข้างบ่อยมากๆ “ทำอู่ซ่อมรถยนต์ อยากได้ประแจปอนด์ซักตัว ซื้อรุ่นไหนดีครับ”
ก่อนอื่นเราควรทราบก่อนครับว่าอู่ของเราเน้นซ่อมอะไร ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบปรับอากาศ เป็นต้น เพื่อ List จุดที่จะใช้ประแจปอนด์ และอันดับต่อไปให้ไปดูค่าทอร์คที่ระบุในคู่มือซ่อมรถแต่ละรุ่น แต่ละจุดว่า ใช้ค่าทอร์คเท่าไรบ้าง โดยดูที่ค่าทอร์คต่ำสุดที่จะใช้ และค่าทอร์คสูงสุดที่จะใช้ แล้วจดค่าออกมาครับ
ในที่นี้ผมขอยกตัวอย่างรถ VIGO ปี 2007 เครื่องยนต์ 1KD-FTV โดยผมอ้างอิงค่าทอร์คจากคู่มือซ่อม โดยดูข้อมูลจากหัวข้อ “ค่ากำหนดต่างๆ” โดยในที่นี้ อู่ของผมจะซ่อมเครื่องยนต์เป็นหลัก เราต้องดูที่ 2 หัวข้อควบคู่กันไป คือ 1.ค่ากำหนดแรงขันในส่วนของกลไกเครื่องยนต์ และ 2.ค่ากำหนดแรงขันของโบล์ทมาตรฐาน ดังภาพ
ค่า MIN-MAX ของค่าทอร์ค ที่ได้จากคู่มือรวมทั้ง 2 หัวข้อ คือ 6.5-170nm. (ในที่นี่ผมตัดค่า 5nm กับ 230nm ออก เนื่องจากเป็นค่านอก Range ค่าทอร์คใน Zone min และ max ของประแจปอนด์ ซึ่งถ้าจะให้ครอบคลุม 2 ค่านี้ด้วยเราต้องใช้ประแจปอนด์ถึง 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งมันจะสิ้นเปลืองและเกินความจำเป็นในการใช้งานในอู่ครับผม)
เอาล่ะ เมื่อได้ค่าทอร์คมาแล้ว ให้เราเลือกประแจปอนด์โดยให้ค่าทอร์ค อยู่ใน Range ของประแจปอนด์โดยควรเลือกให้ค่าอยู่กลางๆของ Range ประแจปอนด์เข้าไว้ ในที่นี้ ประแจปอนด์ที่ควรใช้มีอยู่ 2 รุ่น คือ 5-50NM 3/8″ และ 20-200NM 1/2″ เราจะได้ค่าตั้งแต่ 5-200nm เลยครับ
ทำไมถึงไม่เลือกประแจปอนด์รุ่น 2-25NM 1/4″ ?
นั่นเพราะว่า ตัว 2-25นั้น ใช้กับลูกบล็อค 1/4″ ดังนั้น เราจึงต้องมีลูกบล็อคถึง 2 ชุดด้วยกันคือ ชุดบล็อคสำหรับประแจปอนด์ 1/4″ และชุดบล็อคอีก1ชุด สำหรับประแจปอนด์ 1/2″ แต่หากเราเลือกรุ่น 5-50NM 3/8″ คู่กับ 20-200NM 1/2″ เราเพียงใช้ข้อเพิ่มจาก 3/8″-1/2″ ก็จะสามารถใช้ลูกบล็อคร่วมกันได้แล้วครับ เท่ากับเราเสียตังค์ซื้อลูกบล็อคแค่ชุดเดียว เอาอยู่! จากตัวอย่างข้างต้นคือ ประแจปอนด์ 2 รุ่น ที่ควรมีในอู่ซ่อมรถ โดยมีลูกค้าที่ใช้รถกระบะ Vigo เป็นผู้ใช้บริการหลัก ซึ่งจริงๆแล้ว อู่ซ่อมรถ เกือบทั้งหมดที่เป็นลูกค้าของบริษัทก็จะซื้อ 2 รุ่นนี้นั่นล่ะครับ^^ จะมีบางท่านเท่านั้นที่มีซื้อตัว 2-25nm และ 60-300nm เพิ่มไปด้วยครับ
ดูรายละเอียดประแจปอนด์ R3TN50 กับ R4TN200 เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ >> https://www.torquewrenches2u.com/category/1/ประแจปอนด์-xtorq-2
Leave A Comment